ดาวเด่นก๊อปปี้โชว์

โอปอล์ก๊อปปี้โชว์ ก๊อปปี้ป๊อบ ปองกูล (Calories Blah Blah)

โอปอล์ พัชรพล อติเปรมานนท์ หรือ ที่รู้จักในวงการว่า ปิงปองตีสิบ หรือ โอปอล์ก๊อปปี้โชว์ ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องชายที่ร้องเสียงผู้หญิงได้ดีที่สุดคนหนึ่งในประเทศ และถูกยกย่องว่าเป็น Whitney Houston เมืองไทย และสามารถร้องเลียนเสียงนักร้องต่างๆ ได้ เช่น เบริ์ด, ใหม่, กมลา, ทาทา ยัง, แอม เสาวลักษณ์, ตั๊ก ศิริพร, Creshendo, Blank (Clash), ติ๊ก ชิโร่ ฯลฯ ในปี 2549 รางวัล ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการประกวดไทยแลนด์คาราโอเกะเวิล์ดแชมเปี้ยนชิพ รองชนะเลิศอันดับสาม ในการปะกวดคาราโอเกะโลกที่ ประเทศฟินแลนด์

เริ่มต้นจากการเป็นนักพูดรุ่นเยาว์ที่มีรางวัลรองรับมากมาย แต่ด้วยความรักในการร้องเพลง ปิงปองจึงได้เริ่มฝึกฝนตนเองในด้านการร้องและเข้าประกวดในงานต่างๆ มากมายแต่เมื่อความจำเป็นของชีวิตที่จะต้องทำงาน ปิงปองก็ได้เริ่มงานแรกในกระทรวงกลาโหมในปี 2540 ซึ่งแม้ว่าจะมีกฎระเบียบมากมายในการใช้ชีวิต แต่ก็ไม่สามารถหยุดความฝันสำหรับการร้องเพลงได้ ชีวิตของปองจึงถูกแบ่งออกเป็นสองภาค คือ ภาคกลางวันที่เป็นทหารผู้ตรวจสอบปัญชีกลาโหม (สตช.กห.) และในภาคกลางคืนที่เป็นนักร้องใน ผับต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และ ชลบุรี

ซึ่งต้องทำลับๆ เพื่อไม่ให้เสียงานภาคกลางวัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่ทำให้โอปอล์อ่อนล้าไปกับการให้ชีวิตทั้งสองภาคของเค้า กลับทำให้โอปอล์เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการร้องเพลงได้อย่างดี แต่ในที่สุดช่วงเวลาที่ผลิกผันของชีวิตก็มาถึง เมื่อทางกระทรวงฯ ได้ทราบข่าวในการทำงานกลางคืนของโอปอล์ ซึ่งด้วยกฎระเบียบราชการอาจไม่เป็นการเหมาะสมนักที่จะแบ่งการทานในลักษณะนี้ และในบางครั้งความล้าของร่างกายในภาคกลางคืนก็ส่งผลกับงานราชการ เมื่อมีการขาดราชการเกินกำหนด โอปอล์ก็ถูกลงโทษขังคุกเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ โดยที่ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย เมื่อพ้นโทษออกมาก็รู้ว่าทางวงดนตรีได้ไล่ โอปอล์ออกเนื่องจากขาดการติดต่อ และเมื่อทนการกดดันจากงานราชการไม่ไหวก็เลยขอลาออกเพื่อมาทำงานที่โอปอล์รักมากที่สุดคือการร้องเพลง ในระหว่างนั้นเองที่แม้แต่งานร้องเพลงก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก เนื่องจากบางร้านที่โอปอล์ไปเล่นนั้นเกิดการเปลี่นยมือผู้ถอหุ้นบ่อยครั้ง จนแม้กระทั้งปิดกิจการจากสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ จังหวะนั้นเองทำให้โอปอล์เริ่มท้อแท้กับชะตาชีวิต

ทำให้โอปอล์ออกเดินทางท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ โดยที่ไม่ได้ติดต่อกับใครๆ แม้กระทั่งเพื่อนที่สนิทที่สุดเป็นเวลาเกือบสองปี เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อเพื่อนคนหนึ่งคิดจะเปิดร้านอาหารด้วยตนเอง ซึ่งเป็นช่วงที่โอปอล์ติดต่อกลับมาหาเพื่อนพอดี จึงได้มาร่วมงานกัน และได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง ฟ้าได้ส่งให้ลูกค้าซึ่งมากินที่ร้านพบโอปอล์ และเห็นว่าน่าจะให้โอปล์เข้าประกวด ไทยแลนด์ คาราโอเกะ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ จึงจุดประกายการเป็นนักร้องอีกครั้งหนึ่งของโอปอล์เมื่อได้เป็นผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่งในการประกวด ไทยแลนด์ คาราโอเกะ เวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ และได้ถูกส่งตัวเข้าประกวด คาราโอเกะในระดับโลกที่ประเทศฟินแลนด์ และคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสามของโลก จากประเทศที่เข้าประกวดมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกจึงเป็นการการันตีได้ถึงความสามารถในการร้องเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ และการแสดงบนเวทีที่สามารถตรึงผู้ชมให้สนุกสนานไปกับโอปอล์ได้ วันนี้โอปอล์พร้อมแล้วสำหรับการเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ สำหรับโชว์ทุกๆ การแสดงในเมืองไทย โดยเฉพาะศิลปะการแสดงก๊อปปี้โชว์

ที่มา : http://pingpongsinger.blogspot.com/2006/10/ping-pong-singer.html